กาแฟเอสเปรสโซ่ (Espresso) เป็นกาแฟที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี
กาแฟเอสเปรสโซ่ (Espresso) เป็นกาแฟที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี มีรสชาติเข้มข้นและขม เกิดจากการชงกาแฟด้วยแรงดันน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด กาแฟเอสเปรสโซ่เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบประเทศยุโรปตอนใต้่ มันยังแสดงถึงวัฒนธรรมของแต่ละประเทศได้ด้วย
ลักษณะของกาแฟเอสเปรสโซ่
กาแฟเอสเปรสโซ่มีปริมาณประมาณ 30-40 มิลลิลิตร มีลักษณะเป็นกาแฟสีเข้ม มีฟองครีม่า (Crema) ลอยอยู่ด้านบน ฟองครีม่าเป็นฟองกาแฟที่เกิดจากน้ำมันและฟองอากาศในกาแฟ ฟองครีม่าจะช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติให้กับกาแฟเอสเปรสโซ่
วิธีการชงกาแฟเอสเปรสโซ่
กาแฟเอสเปรสโซ่ชงด้วยเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ (Espresso Machine) เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่จะประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ หัวชง (Group Head), หม้อต้มน้ำร้อน (Boiler) และปั๊มน้ำ (Pump)
ขั้นตอนการชงกาแฟเอสเปรสโซ่มีดังนี้บดเมล็ดกาแฟให้ละเอียด
- ใส่กาแฟที่บดแล้วลงในหัวชง
- ต้มน้ำร้อนให้อุณหภูมิประมาณ 90-96 องศาเซลเซียส
- เปิดปั๊มน้ำให้น้ำร้อนไหลผ่านกาแฟที่บดแล้ว
- กาแฟเอสเปรสโซ่จะถูกชงออกมาในระยะเวลาประมาณ 25-30 วินาที
วัฒนธรรมการดื่มกาแฟเอสเปรสโซ่
ในอิตาลี กาแฟเอสเปรสโซ่เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ชาวอิตาลีนิยมดื่มกาแฟเอสเปรสโซ่เป็นเครื่องดื่มยามเช้าหรือจิบระหว่างมื้ออาหาร ชาวอิตาลีมักดื่มกาแฟเอสเปรสโซ่ในร้านกาแฟที่มีขนาดเล็กและอบอุ่น บรรยากาศเป็นกันเอง กาแฟจึงเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม แต่เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนฝูง
เมนูกาแฟเอสเปรสโซ่
กาแฟเอสเปรสโซ่เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และเอสเปรสโซ่สามารถนำมาประยุกต์เป็นเมนูกาแฟอื่นๆ ได้อีกมากมาย เมนูกาแฟเอสเปรสโซ่ที่ได้รับความนิยม ได้แก่่
- กาแฟลาตเต้ (Latte): กาแฟลาตเต้คือการนำกาแฟเอสเปรสโซ่มาผสมกับนมร้อนที่กำลังค่อนดูน โดยใช้สัดส่วนที่เหมาะสม เมนูนี้มีกลิ่นหอมของกาแฟเอสเปรสโซและรสชาติเข้มข้นของนมร้อน
- แคปปูชชิโน (Cappuccino): แคปปูชชิโนคือการผสมกาแฟเอสเปรสโซ่, นมร้อน, และนมฟองในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งทำให้เกิดชั้นฟองบนเครื่องชงกาแฟ แคปปูชชิโนมีรสชาติเข้มข้นและรสของกาแฟเอสเปรสโซ่ยังเป็นส่วนสำคัญ.
- มอคคา (Mocha): มอคคาคือการผสมกาแฟเอสเปรสโซ่กับช็อกโกแลต และนมร้อน ซึ่งทำให้เกิดรสชาติของกาแฟและช็อกโกแลตรวมกันในเมนูเดียว.
- แอมเรริกาโน (Americano): แอมเรริกาโนคือการแบ่งกาแฟเอสเปรสโซ่ด้วยน้ำร้อน เพื่อให้ได้กาแฟที่บางและคล้ายกับกาแฟดั้งเดิมที่มีน้ำเย็นส่วนใหญ่ มอคคามีรสชาติคล้ายกับกาแฟดั้งเดิมแต่เข้มข้นขึ้น.
- ริสโตรโต (Ristretto): ริสโตรโตเป็นเมนูที่ใช้กาแฟเอสเปรสโซ่ในสัดส่วนที่น้อยกว่าเดิม ทำให้เกิดกาแฟที่เข้มข้นมากขึ้น โดยใช้น้ำน้อย.
- กาแฟเย็น (Iced Espresso): กาแฟเอสเปรสโซ่สามารถนำมาทำเป็นกาแฟเย็นได้โดยเติมน้ำเย็นและน้ำตาลตามรสชาติที่คุณต้องการ ที่ร้านกาแฟเย็นและเป็นเมนูยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน.
- กาแฟคอนเเลคตัส (Coffee Con Panna): เป็นการเสิร์ฟกาแฟเอสเปรสโซ่ด้วยครีมและช็อกโกแลตขาวบนขนมปังหรือกาแฟเบเกอร์รี่.
- กาแฟมัคคิอัดโอ (Macchiato): กาแฟมัคคิอัดโอคือกาแฟเอสเปรสโซ่ที่ “เคลือบ” ด้วยนมร้อนเพื่อให้มีรสชาติที่เข้มข้นและรสของกาแฟยังคงอยู่.
- กาแฟช็อต (Cortado): กาแฟช็อตคือกาแฟเอสเปรสโซ่ที่ผสมกับนมร้อนในสัดส่วนที่เท่ากัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรสชาติเข้มข้นและรสนมร้อนในเมนูเดียว.
- กาแฟสเปรสโซเย็น (Iced Espresso): หนึ่งในเมนูกาแฟเย็นที่ใช้กาแฟเอสเปรสโซ่เป็นส่วนหลัก โดยเติมน้ำเย็นและน้ำตาลตามรสชาติ.
- ริสเตอรสโต (Ristretto) ริสเตรตโตเป็นเมนูที่นิยมในแวดวงกาแฟระดับสูง มันเน้นที่รสชาติและความเข้มข้นของกาแฟ ถ้าคุณชอบกาแฟที่เข้มข้นและเป็นกาแฟคนที่รักความเข้มข้นของรสชาติ คุณควรลอง
ลองโกเป็นเมนูที่นิยมในแวดวงกาแฟระดับสูงเช่นกัน มันเน้นที่ความนุ่มนวลและรสชาติที่อ่อนนุ่มของกาแฟ ถ้าคุณชอบกาแฟที่อ่อนนุ่มและไม่เข้มข้นมาก คุณควรลองลองโกครับ
สรุปท้ายบท กาแฟเอสเปรสโซ่
กาแฟเอสเปรสโซ่ที่ดีควรมีรสชาติเข้มข้น หอมกรุ่น มีฟองครีม่าสีน้ำตาลอ่อนอยู่ด้านบน ฟองครีม่าจะช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติให้กับกาแฟเอสเปรสโซ่ โดยปกติความนิยมของกาแฟแถบยุโรบจะนิยมกาแฟเอสเปรสโซ่ร้อนมากกว่าทวีปอื่นๆเนื่องด้วยอากาสที่หนาวและอุณหภูมิที่ค่อนข้างต่ำตลอดเวลาจึงต้องการความอบอุ่น ส่วนแถบเขตร้อนหรือทวีปที่ติดกับเส้นศูนย์สูตรจะนิยมกาแฟเย็นหรือกาแฟที่ใส่น้ำแข็งเพื่อลดอุณหภูมิ หากใครยังไม่เคยลองเอสเปรสโซ่ผมอยากให้ลองเปิดใจสักครั้งเพราะกาแฟฟเอสเปรสโซ่นั้นคือที่สุดของกาแฟ