กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่มีความหลากหลายและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนในหลายๆ ทวีป กาแฟยังมีความหลากหลายในแบบการชงและชนิดของเมล็ด ซึ่งมีผลต่อรสชาติและลักษณะของกาแฟที่ได้ เช่น กาแฟชนิดอาราบิก้ามีลักษณะเป็นสีเข้ม มีรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอม ส่วนกาแฟชนิดรบัสต้ามักมีลักษณะเป็นกาแฟคลาสสิคที่มีรสชาติเบา ไม่เข้มข้นมาก และมีกลิ่นหอมน้อยลง การเลือกกาแฟที่เหมาะสมกับรสนิยมและการชงของแต่ละคนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสัมผัสรสชาติของกาแฟอย่างแท้จริง
บทความนี้ Coffeekub ได้รวบรวม เมล็ดกาแฟคั่ว ที่ได้รับความนิยมมาแนะนำกันถึง 5 อันดับ มาดูกันว่า เมล็ดกาแฟยี่ห้อไหนดี กลิ่นหอม กลมกล่อม รสชาติอร่อย ราคาดี โดยจะมียี่ห้อไหนบ้างนั้น ติดตามไปพร้อมๆ กันได้เลย
5 อันดับ เมล็ดกาแฟคั่ว ยี่ห้อไหนดี ? ปี 2024
1.เมล็ดกาแฟดอยช้างพรีเมี่ยม เกรดA : Three Beans
กาแฟดอยช้างพรีเมี่ยม เกรด A จาก Three Beans เป็นกาแฟอราบิก้า 100% ที่ปลูกบนดอยช้าง จังหวัดเชียงราย ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสูงที่เหนือระดับน้ำทะเล อากาศเย็นสบาย และดินที่อุดมสมบูรณ์ ปลูกด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ คัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างพิถีพิถัน ผ่านกระบวนการคั่วแบบพิเศษ จนได้กาแฟที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมละมุน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
จุดเด่นของกาแฟดอยช้างพรีเมี่ยม เกรด A จาก Three Beans
- คัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างพิถีพิถัน : ทาง Three Beans คัดสรรเมล็ดกาแฟดอยช้าง เกรด A ที่สมบูรณ์แบบ นำมาคั่วอย่างพิถีพิถันเพื่อคงรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟเอาไว้
- รสชาติกลมกล่อม : กาแฟดอยช้างพรีเมี่ยม เกรด A จาก Three Beans มีรสชาติกลมกล่อม หอมละมุน มีความเป็นกรดผลไม้เล็กน้อย ทานง่าย เหมาะกับคอกาแฟทุกระดับ
มีให้เลือกหลายรูปแบบ : ทาง Three Beans มีกาแฟดอยช้างพรีเมี่ยม เกรด A ให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งแบบเมล็ดกาแฟคั่วบด เมล็ดกาแฟคั่วพร้อมดริป และกาแฟแคปซูล เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
สนับสนุนเกษตรกรไทย : การซื้อกาแฟดอยช้างพรีเมี่ยม เกรด A จาก Three Beans เป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทยที่ปลูกกาแฟบนดอยช้าง ช่วยให้พวกเขามีรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิต
2.เมล็ดกาแฟปางขอน Pangkhon 100% Arabica Thai Single Origin : SUZUKI COFFEE
กาแฟอาราบิก้า จากดอยปางขอน จ.เชียงราย มีความโดดเด่นในเรื่องของความหอมที่มีเสน่ห์อย่างมาก ต้นกาแฟปลูก และเติบโตใต้ต้นไม้ใหญ่ โดยเฉพาะต้นนางพญาเสือโคร่ง และต้นแมคคาเดเมีย ซึ่งปลูกไว้ให้ร่มเงาแก่ต้นกาแฟ บนยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,300 เมตร จากแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ควบคุมคุณภาพของเมล็ดกาแฟ โดยชาวไร่กาแฟบ้านปางขอนอย่างใกล้ชิด เก็บผลผลิตด้วยมือและคัดเฉพาะผลสีแดง ทำให้ได้กาแฟคุณภาพดี ที่รักษารสชาติ และกลิ่นหอมอบอวลที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้
จุดเด่นของกาแฟดอยปางขอน (Pangkhon 100% Arabica)
- ปลูกบนพื้นที่สูงอากาศเย็น : ดอยปางขอนตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย บนความสูง 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การปลูกกาแฟสายพันธุ์อราบิก้า
- ดินอุดมสมบูรณ์ : ดินบนดอยปางขอนอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุต่างๆ เหมาะแก่การเจริญเติบโตของต้นกาแฟ
- กรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน : เกษตรกรบนดอยปางขอนดูแลต้นกาแฟด้วยความเอาใจใส่ เก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยมือ คัดเลือกเมล็ดกาแฟอย่างดี และผ่านกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน
- รสชาติกลมกล่อม หอมละมุน : กาแฟดอยปางขอนมีรสชาติกลมกล่อม หอมละมุน มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
3.เมล็ดกาแฟราติก้า โรบัสต้าแท้ 100% : RATIKA
กาแฟราติก้า โรบัสต้าแท้ 100% นำเสนอความเข้มข้น หอมกรุ่น เต็มไปด้วยคาเฟอีน เหมาะสำหรับคอกาแฟที่ต้องการปลุกความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า กาแฟโรบัสต้าจากราติก้า คัดสรรเมล็ดกาแฟชั้นดีจากแหล่งปลูกที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Dry Process ที่ช่วยคงความหอมกรุ่นและรสชาติเข้มข้นของกาแฟไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม
จุดเด่นของกาแฟราติก้า โรบัสต้าแท้ 100% คั่วเข้ม (Ratika Coffee Robusta)
- รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม : กาแฟราติก้า โรบัสต้า คัดสรรจากเมล็ดกาแฟชั้นดี ผ่านกระบวนการคั่วเข้มพิเศษ เผยเอกลักษณ์ของกาแฟโรบัสต้าแท้ๆ มอบรสชาติเข้มข้น ขมน้อย มัน กลมกล่อม ละมุนลิ้น สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากกาแฟทั่วไป
- หอมกรุ่นเย้ายวนใจ : ดื่มด่ำกับกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟราติก้า สัมผัสความหอมกรุ่นเย้ายวนใจ กลิ่นหอมเข้ม คล้ายกลิ่นถั่ว คาราเมล และอ้อย กระตุ้นความรู้สึก ผ่อนคลาย สร้างบรรยากาศยามจิบกาแฟให้พิเศษยิ่งขึ้น
- พลังคาเฟอีนสูง : ปลุกความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ด้วยกาแฟราติก้า กาแฟโรบัสต้าขึ้นชื่อเรื่องคาเฟอีนสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสดชื่น เพิ่มสมาธิ และความตั้งใจ ช่วยให้โฟกัสกับงาน หรือกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- บอดี้แน่น : สัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟที่เต็มอิ่ม ด้วยบอดี้กาแฟที่แน่น เข้มข้น กลมกล่อม จิบแล้วรู้สึกอิ่มหนำ ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟได้ยาวนาน
4.เมล็ดกาแฟโรบัสต้าชุมพร : JAM Coffee Roaster
กาแฟโรบัสต้าชุมพรเป็นที่รู้จักด้วยความเข้มข้นและความหอมกรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากมีเงื่อนไขทางภูมิอากาศและภูมิประเทศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟโรบัสต้าในพื้นที่นี้ ซึ่งทำให้เมล็ดกาแฟที่ได้มีคุณภาพและรสชาติที่โดดเด่น
จุดเด่นของกาแฟโรบัสต้าชุมพร (Robusta chumphon)
- รสชาติเข้มข้น : กาแฟโรบัสต้ามีคาเฟอีนสูง ให้รสเข้มข้น กลมกล่อม กลิ่นหอมชัดเจน เหมาะกับคอกาแฟที่ชื่นชอบรสเข้ม
- กลิ่นหอม : เมล็ดกาแฟโรบัสต้าชุมพรมีกลิ่นหอมชัดเจน กลิ่นอาจจะออกโทนถั่ว ดาร์กช็อกโกแลต หรือดินเผา ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และวิธีการแปรรูป
- แหล่งปลูกใหญ่ : จังหวัดชุมพรเป็นแหล่งปลูกกาแฟโรบัสต้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่งผลให้มีปริมาณเมล็ดกาแฟเพียงพอต่อความต้องการ
- ราคาไม่แพง : เมล็ดกาแฟโรบัสต้ามีราคาถูกกว่าเมล็ดกาแฟอะราบิก้า เหมาะกับผู้ที่ต้องการดื่มกาแฟในราคาประหยัด
5.เมล็ดกาแฟ Brazil Santos : Kate & Kim Specialty Coffee
กาแฟบราซิล ซานโตส เป็นกาแฟอาราบิก้าที่ปลูกในภูมิภาคซานโตส ประเทศบราซิล ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่กลมกล่อม หอมหวาน และมีความเป็นกรดต่ำ กาแฟชนิดนี้มักถูกนำมาคั่วระดับกลาง ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มนวล กลมกล่อม กาแฟบราซิล ซานโตส เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกาแฟรสชาติดี หอมหวาน กลมกล่อม เปรี้ยวน้อย มีบอดี้ปานกลางถึงเข้ม เหมาะกับการชงทั้งแบบร้อนและเย็น และเข้ากันได้ดีกับนม
จุดเด่นของเมล็ดกาแฟบราซิล ซานโตส (Brazil Santos)
- กลมกล่อมลงตัว : สัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ลงตัว ไร้ความขมหรือเปรี้ยวจนเกินไป กาแฟบราซิล ซานโตส มอบความกลมกล่อมละมุนลิ้น เหมาะสำหรับคอกาแฟที่ชื่นชอบกาแฟใส่นม เติมเต็มความอร่อยในยามเช้าหรือยามบ่ายของคุณ
- หอมนุ่มละมุน : ปลดปล่อยความหอมกรุ่นจากเมล็ดกาแฟคั่วอย่างพิถีพิถัน กาแฟชนิดนี้โชยกลิ่นหอมนุ่ม อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมละมุน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ผ่อนคลายความเครียด เติมเต็มความสดชื่นในทุกสัมผัส
- เปรี้ยวน้อย : สัมผัสความสดชื่นโดยไร้ความเปรี้ยวบาดคอ กาแฟบราซิล ซานโตส เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกาแฟเปรี้ยว ดื่มได้ง่าย สบายท้อง
- บอดี้แน่น : สัมผัสกาแฟที่มีบอดี้แน่น เข้มข้น ดื่มแล้วรู้สึกอิ่มท้อง อิ่มเอมไปกับรสชาติกาแฟที่เข้มข้น กลมกล่อม
- กลิ่นหอมถั่ว : เอกลักษณ์เฉพาะตัวของกาแฟบราซิล ซานโตส คือกลิ่นหอมถั่วอันเป็นเอกลักษณ์ หอมละมุน กลมกล่อม เสริมสร้างมิติของรสชาติกาแฟให้ลงตัว
ประโยชน์ของกาแฟ
การดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม (ประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน) มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง : คาเฟอีนในกาแฟช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกตื่นตัว มีสมาธิ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
- ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง : กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ โรคมะเร็งบางชนิด
- ส่งเสริมสุขภาพของตับ : กาแฟช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็ง โรคตับอักเสบ และโรคนิ่วในถุงน้ำดี
- เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย : คาเฟอีนในกาแฟช่วยเพิ่มพลังงานและความทนทาน ช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น
- ช่วยลดน้ำหนัก : กาแฟช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ช่วยให้น้ำหนักตัวลดลง
- บำรุงผิวพรรณ : กาแฟช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
- ลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้า : กาแฟช่วยเพิ่มระดับสารสื่อประสาทเซโรโทนินในสมอง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้า
- ป้องกันโรคบางชนิด : กาแฟอาจช่วยป้องกันโรคบางชนิด เช่น โรคเกาต์ โรคหอบหืด โรคทางเดินอาหารบางชนิด
อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น นอนไม่หลับ ใจสั่น กระวนกระวาย ปวดท้อง ท้องเสีย ดังนั้น ควรดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม และควรเลือกดื่มกาแฟดำหรือกาแฟที่ใส่น้ำตาลและครีมน้อย
ชนิดของเมล็ดกาแฟ
กาแฟที่เราดื่มกันอยู่ทุกวันนี้ ล้วนมาจากเมล็ดกาแฟ ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ที่นิยมและรู้จักกันทั่วไป มีอยู่ 4 สายพันธุ์หลักๆ ดังนี้
1.กาแฟอราบิก้า (Arabica) เป็นสายพันธุ์กาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คิดเป็น 50-60% ของกาแฟที่บริโภคทั่วโลก มีถิ่นกำเนิดในเทือกเขาเอธิโอเปีย ลักษณะเด่นของกาแฟอราบิก้า คือ มีกลิ่นหอมละมุน รสชาติกลมกล่อม มีความเป็นกรดต่ำ มีคาเฟอีนปานกลาง เมล็ดกาแฟอราบิก้ามีรูปร่างยาวรี ปลายแหลม ในส่วนของการเพาะปลูกนั้น โดยในประเทศไทยนิยมปลูกในเขตพื้นที่ทางภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน แม่ฮ่องสอน และลำปาง เป็นต้น
2.กาแฟโรบัสต้า (Robusta) มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาตะวันตก ลักษณะเด่นของกาแฟโรบัสต้า คือ มีกลิ่นหอมเข้มข้น รสชาติเข้มข้น ขมจัด มีคาเฟอีนสูง เมล็ดกาแฟโรบัสต้ามีรูปร่างกลมป้อม ปลายมน โดยในประเทศไทยนิยมปลูกในจังหวัดทางภาคใต้ เช่น จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เป็นต้น
3.กาแฟลิเบอริก้า (Liberica) เมล็ดกาแฟสายพันธุ์นี้ก็ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะเมล็ดกาแฟลิเบอริก้ามีถิ่นกำเนิดในไลบีเรีย และไอวอรีโคสต์ จะมีแค่บางประเทศเท่านั้นที่ปลูกกาแฟลิเบอริก้า กาแฟสายพันธุ์นี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า กาแฟใบใหญ่ ด้วยใบที่มีขนาดใหญ่กว่าสายพันธุ์อื่นๆ เติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น และน้ำชุ่มๆ โดยจะมีรสชาติใกล้เคียงกับอราบิก้าแต่มีรสเปรี้ยวอมหวานของผลเบอร์รี่มากกว่า
4.กาแฟเอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa) มีถิ่นกำเนิดในเวียดนาม ลักษณะเด่นของกาแฟเอ็กซ์เซลซ่า คือ มีกลิ่นหอมคล้ายดอกมะลิ รสชาติเข้มข้น มีความเป็นกรดสูง มีคาเฟอีนสูง เมล็ดกาแฟเอ็กซ์เซลซ่ามีรูปร่างยาวรี ปลายแหลม กาแฟเอ็กซ์เซลซ่า นิยมในแอฟริกา เพราะมีความเข้มข้นจนถึงขมเลยทีเดียว แต่ในประเทศอื่นจะยังไม่ค่อยนิยมดื่มกาแฟชนิดนี้กันมากนัก โดยรวมแล้ว กาแฟเอ็กซ์เซลซ่าเป็นกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รสชาติเข้มข้น ทนทาน ปลูกง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสเข้มข้น หรือนำไปผสมกับกาแฟสายพันธุ์อื่น
เทคนิคเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคั่วแบบมือโปร
1. เลือกจากรูปแบบของเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์ในการทำกาแฟ
- กาแฟสดแบบเมล็ด
กาแฟสดแบบเมล็ดเป็นเมล็ดกาแฟที่นิยมใช้ตามร้านขายกาแฟสดทั่วไปแต่หากบ้านใครที่มีเครื่องบดเมล็ดกาแฟก็สามารถใช้ได้เช่นกัน กาแฟสดแบบเมล็ดเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟสดใหม่และมีเวลาในการชงกาแฟ กาแฟแบบนี้จะมีรสชาติที่หอมกรุ่น เข้มข้นถูกใจคอกาแฟตัวจริง แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาและไม่มีเครื่องบดเมล็ดกาแฟ แต่กาแฟชนิดนี้จะสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าแบบบด - กาแฟแบบบด
กาแฟแบบบดเป็นกาแฟที่มีความสะดวกสบายและสามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องใช้เวลานานๆในการบด เพียงแค่ตักกาแฟที่บดเรียบร้อยแล้วใส่ในถ้วยกรองก็สามารถดื่มกาแฟดริบได้ทันที แต่อย่างไรก็ตามกาแฟบดจะมีรสชาติที่ไม่เข้มข้นและสดใหม่เท่ากาแฟแบบเมล็ด และการเก็บรักษาก็จะยากกว่า นานๆไปรสชาติก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ต้องรู้จักวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้อง
2. เลือกตามสายพันธุ์และรสชาติของกาแฟ
- ดูจากอัตราส่วนของสายพันธุ์ที่ผสมในกาแฟ
กาแฟที่วางขายจะมีทั้งแบบสายพันธุ์เดี่ยวและสายพันธุ์ผสม ดังนั้นก่อนที่จะซื้อคุณจะต้องอ่านส่วนผสมที่ข้างซองว่ามีส่วนผสมใดบ้าง ซึ่งหากเป็นสายพันธุ์แบบเดี่ยวก็จะเป็นกาแฟที่มีลักษณะเฉพาะของสถานที่นั้นๆ และหากเป็นกาแฟแบบผสมก็จะมีหลายสายพันธุ์รวมกันซึ่งเราจะเรียกว่า เบลนด์ ( Blend ) ซึ่งแน่นอนว่าอัตราส่วนทั้งเดี่ยวและผสมนั้นจะมีรสชาติที่ต่างกันอย่างแน่นอน - ดูจากระดับการคั่ว
ระดับการคั่วเมล็ดกาแฟ นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อรสชาติของกาแฟ ซึ่งกาแฟจะมีรสขมหรือรสเปรี้ยว จะขึ้นอยู่กับระดับของการคั่วเมล็ดกาแฟซึ่งเราสามารถแบ่งระดับการคั่วออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ- 1.การคั่วอ่อน (Light Roast/Cinnamon Roast)
กาแฟคั่วอ่อน เหมาะกับผู้ที่ชอบกาแฟที่มีรสเปรี้ยวสดใส หวานชัดเจน มีความขมน้อย และต้องการสัมผัสกับรสชาติและกลิ่นธรรมชาติของกาแฟ เหมาะกับการชงแบบ Slow Bar เช่น การดริป เท หรือแช่เย็น- เมล็ดกาแฟจะมีสีน้ำตาลอ่อน คล้ายสีของอบเชย
- มีรสชาติออกเปรี้ยวและมีความฝาด
- เหมาะกับการนำมาทำเป็นกาแฟร้อน
- 2.การคั่วปานกลาง (Medium Roast/ American)
กาแฟคั่วปานกลาง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกาแฟที่มีรสชาติกลมกล่อม ดื่มง่าย รักษาคุณลักษณะของเมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์ไว้ได้ดี หาซื้อง่าย มีขายทั่วไป เหมาะกับการชงกาแฟร้อนทุกประเภท- เมล็ดกาแฟจะมีสีน้ำตาลเข้มปานกลาง
- มีความเปรี้ยวเล็กน้อย ขมปานกลาง มีความติดมานิดๆ
- มีรสชาติกลมกล่อม สามารถนำมาทำได้ทั้งเมนูร้อนและเย็น เช่น ลาเต้ และ คาปูชิโน
- 3.การคั่วเข้ม (French Roast / Dark roast)
กาแฟคั่วเข้ม หรือที่เรียกว่า French Roast เป็นกาแฟที่ผ่านกระบวนการคั่วที่ยาวนานและใช้อุณหภูมิสูง ทำให้เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ ผิวมันวาว กลิ่นหอมเข้มข้น มีกลิ่นไหม้ คาราเมล หรือควัน รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม ขมน้อย มีความหวานธรรมชาติ แทบไม่มีรสเปรี้ยว- เมล็ดกาแฟจะมีสีน้ำตาลเข้ม
- มีรสชาติขมมีความหวานติดลิ้นเล็กๆ ไม่มีความเปรี้ยว
- เหมาะกับผู้ที่ชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น หรือเหมาะกับการเอาไว้เมนูกาแฟเย็น เช่น espressoเย็น
- 1.การคั่วอ่อน (Light Roast/Cinnamon Roast)
3. เลือกตามรสชาติที่ชอบ
- อย่างไรก็ตามการดื่มกาแฟขึ้นกับรสชาติเป็นสำคัญ บางคนชอบดื่มกาแฟเย็น บางคนชอบดื่มกาแฟร้อน กาแฟแต่ละรูปแบบจะได้รสชาติที่แตกต่างกันออกไป บางคนที่ชอบดื่มกาแฟสดจะทราบดีกว่าตัวเองชอบกาแฟแบบไหน หากชอบดื่มแบบเติมนมและน้ำตาลก็ได้รสชาติความเข้มที่อ่อนลงและได้ความกลมกล่อมดื่มง่ายได้คาเฟอีนนิดๆ ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
สรุป
การดื่มกาแฟเป็นความสุขอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่หลงใหลในการรสชาติของกาแฟ นอกจากความอร่อยแล้ว การดื่มกาแฟยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน เช่น ช่วยกระตุ้นสมรรถภาพสมอง, ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ, และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องร่างกายจากภัยจากสารอนุมูลอิสระ การดื่มกาแฟนั้นเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญกับปริมาณที่ดื่มด้วย การดื่มเกินไปอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น เพิ่มความตึงเครียด, สะสมกรดในกระเพาะอาหาร หรือส่งผลทำให้ไม่นอนหลับได้
ยี่ห้อกาแฟที่ดี นั่นขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของแต่ละคน แต่ทั่วไปแล้วกาแฟที่มีคุณภาพดีมักจะมีลักษณะเป็นลักษณะเด่นเฉพาะของแต่ละยี่ห้อ เช่น ความเข้มข้น, ความกระชับของรสชาติ, และกลิ่นหอมที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นการทดลองกับหลากหลายยี่ห้อกาแฟจะช่วยให้คุณได้ค้นพบรสชาติที่ตรงกับความต้องการและความพึงพอใจของคุณได้ดียิ่งขึ้น