วิธีการแปรรูปกาแฟ มีอยู่ 5 ชนิดด้วยกันที่ใช้อย่างแพร่หลายตามอุตสหกรรมกาแฟ วิธีการแปรรูปจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเจ้าของว่าอยากได้แบบไหน เพื่ลดต้นทุน เพื่อสกัดรสชาติที่ดี เพื่อการแปรรูป ตัวอย่างเช่นการสกัดกาแฟในรูปแบบกระป๋อง ต้องการความรวดเร็วและพร้อมดื่ม ไม่ต้องใช้เวลาในการต้ม หรือรอการสกัดออกมา เพื่อจะได้รับคาเฟอีน
ชนิดของการแปรรูปกาแฟ
1. กาแฟคั่ว(Roasted Coffee)
กาแฟคั่ว(Roasted Coffee) เป็นกาแฟที่ได้จากการน้ำเมล็ดกาแฟมาคั่วแล้วบดชงด้วยน้ำร้อน สารสำคัญที่ให้กลิ่นและรสของกาแฟจะถูกละลายปลดปล่อยออกมาในน้ำกาแฟ กาแฟคั่วนั่นมีหลายระดับเช่น ระดับคั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้มโดยจะให้รสชาติที่แตกต่างกันออกไป
2. กาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee)
กาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) เป็นกาแฟที่ชงละลายในน้ำร้อนได้หมดทันที
โดยไม่มีกากกาแฟเหลืออยู่ สะดวกต่อการเก็บรักษา และการดื่มชง กลิ่นรสไม่ค่อยแปรปรวน
กาแฟชนิดนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน – ญี่ปุ่น ชื่อ Satori Kato ในปี
ค.ศ. 1901 และได้รับความนิยมในเวลาต่อมา รวมทั้งในประเทศไทย ลักษณะของกาแฟสำเร็จรูป
มี 4 แบบ คือ ผงละเอียด เกล็ดฟู เกล็ดแข็ง และเกล็ดแท่ง วิธีการผลิตกาแฟสำเร็จรูปโดยทั่วไปมี 2 แบบ คือ
- การผลิตในระบบพ่นแห้ง (Spray Drying) โดยการคั่วเมล็ดกาแฟ นำไปต้มแล้วพ่นน้ำกาแฟเป็นละอองฝอยละเอียดผ่านไปในอากาศร้อน น้ำจะถูกระเหยออกไปจนเหลือแต่ผงกาแฟเป็นผงละเอียด แต่หากใช้กระบวนการทำซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง จะได้ลักษณะกาแฟที่เป็นเกล็ดฟู ทำให้มีการละลายดีขึ้น
- การผลิตในระบบเย็น (Freeze Drying) โดยการนำน้ำกาแฟเข้มข้นไปแช่เย็นจัดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งภายใต้ความดันสูงจนเป็นเกล็ด เพื่อระเหยน้ำอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปลี่ยนสภาพ จะได้กาแฟสำเร็จรูปในรูปเกล็ดแข็งที่สามารถเก็บรักษากลิ่นหอมและรสชาติของกาแฟได้ดี
การผลิตกาแฟสำเร็จรูปโดยทั่วไป เมล็ดกาแฟ 2.6 กิโลกรัม สามารถผลิตกาแฟสำเร็จรูป ได้ 1 กิโลกรัม อาจมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะที่แตกต่างกันของเมล็ดกาแฟ เช่น พันธุ์ คุณภาพเมล็ด เป็นต้น
3. กาแฟสำเร็จรูปชนิดปรุงสำเร็จ
กาแฟสำเร็จรูปชนิดปรุงสำเร็จเป็นกาแฟที่นำกาแฟสำเร็จรูปมาปรุงรส
เพื่อให้สะดวกต่อการบริโภค ด้วยการผสมน้ำตาลและครีมเทียมไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น กาแฟ ทรี อิน วัน (3:1) กาแฟทรี โอ (Tri O) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกาแฟสำเร็จรูปบางชนิดปรุงแต่ง
ให้เกิดกลิ่น สี รสของกาแฟที่แปลกใหม่ เช่น กาแฟผสมคาราเมล กาแฟกลิ่นวนิลา เป็นต้น รวมทั้ง กาแฟสำเร็จรูปผสมสารสกัดจากพืชและสารอื่นๆ เช่น ถั่วขาว โสม เป็นต้น เพื่อให้มีสรรพคุณ
ด้านต่างๆ สนองความต้องการผู้บริโภค
4. กาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaffeinated Coffee)
กาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaffeinated Coffee) เป็นกาแฟที่ถูกสกัดสาร คาเฟอีนออกไป ถูกคิดค้นโดย Ludwig Roselius ผู้นำเข้ากาแฟชาวเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1901 โดยใช้การสกัดด้วยไอน้ำและสารละลายคลอรีนรวมกัน และได้จดลิขสิทธิ์ รวมทั้งผลิตกาแฟปลอดคาเฟอีนออกจำหน่ายภายใต้ชื่อ Kaffee – Hag ปัจจุบันการสกัดสารคาเฟอีนมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับ ตัวทำละลาย เช่น เมธิลีน คลอไรด์ (methylene chloride) เอททิล อซีเตต (ethyl acetate)
5. กาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม (Ready to Drink Coffee)
กาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม (Ready to Drink Coffee) เป็นกาแฟชงสำเร็จบรรจุกระป๋องหรือขวด สามารถดื่มได้ทันที ผลิตครั้งแรกในปี ค.ศ. 1969 โดยชาวญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากความนิยมใช้เครื่องขายอัตโนมัติ ต่อมาได้รับความนิยมในประเทศแถบเอเซียซึ่งมีอากาศร้อน จึงต้องการเครื่องดื่มเย็นๆ